ไปอิตาลีก็ต้องไม่พลาด เจลาโต้ จึงขอรีวิวเจลาโต้ 2 ร้านที่ลองชิมแล้วชอบ
ไปอิตาลีก็ต้องไม่พลาด เจลาโต้ จึงขอรีวิวเจลาโต้ 2 ร้านที่ลองชิมแล้วชอบ
ร้านแรกชื่อ Amorino โลโก้ร้านเป็นรูปเทพคิวปิดวัยเด็กถือเจลาโต้ใส่โคนอยู่ ร้านที่เราไปกินตั้งอยู่ใกล้ๆกับน้ำพุเทรวี่ แต่จริงๆแล้วมีสาขามากมาย จุดเด่นของร้านนี้คือน้องเขาจะตักเจลาโต้ใส่โคนเป็นรูปดอกกุหลาบ น่าทานมาก เพิ่งมาทราบทีหลังว่าเจลาโต้ร้านนี้เป็นออร์แกนิกล้วน ไม่ใส่สารแต่งสีแต่งกลิ่น ไม่ใส่สารกันบูด มีรสชาติให้เลือกเยอะมากจนเลือกไม่ถูก พอนุชขอถ่ายรูปพนักงาน สาวๆก็ยิ้มสู้กล้องขึ้นมาทันที ทำหน้าทะเล้นด้วย ร้านนี้ประทับใจจนเรามากินซ้ำอีกรอบ
อีกร้านชื่อ Venchi เราไปกินที่ฟลอเรนซ์ แต่เขามีสาขามากมายเช่นกัน อันที่จริงร้านนี้เป็นร้านช็อกโกแลต ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1878 หรือเมื่อ 144 ปีก่อน แต่บางสาขาเขาก็ขายเจลาโต้ด้วย เจลาโต้ร้านนี้ก็อร่อย แต่ผมว่าร้าน Amorino อร่อยกว่า จุดเด่นของร้านนี้คือ ทำเวเฟอร์เป็นโคนใส่เจลาโต้แบบสดๆ ทำทีละชิ้น คิวเลยยาวสักหน่อย และที่อร่อยอีกอย่างคือ ช็อกโกแลต ร้านที่ฟลอเรนซ์ทำผนังหลังเคาน์เตอร์เป็นน้ำตกช็อกโกแลตไหลลงมา ดูน่ากิน ช็อกโกแลตที่ซื้อมาเป็นของฝากน้องๆที่ออฟฟิศก็ได้รับคำชมว่าอร่อยมาก
เขาว่า เจลาโต้ ดีกว่า ไอศกรีม ตรงที่มีส่วนผสมจากนมมากกว่า ส่วนไอศกรีมใช้ไข่แดงด้วย และมีไขมันมากกว่า เขาเลยบอกว่า เจลาโต้ดีต่อสุขภาพมากกว่าไอศกรีม อีกอย่างก็คือ เนื้อเจลาโต้จะแน่น แทบไม่มีฟองอากาศ แต่เนื้อไอศกรีมจะพรุน เต็มไปด้วยฟองอากาศ ดังนั้นในปริมาตรเท่ากัน เจลาโต้จะมีน้ำหนักมากกว่า เนื้อเจลาโต้เยอะกว่า คนอิตาเลียนเลยบอกว่า เจลาโต้ดีกว่าไอศกรีมมาก